ภาวะไขมันพอกตับ คืออะไร ?
ในปัจจุบันไขมันพอกตับเป็นโรคซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นคนอ้วนเพียงแค่นั้น โดยเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การดื่มแอลกอฮอล์ ฯลฯ แต่คนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูงเป็นผู้ที่อ้วนลงพุง น้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน ผู้ตรวจพบเบาหวาน ภาวะไขมันในเลือดสูงและความดันโลหิตสูง ซึ่งมีการเสี่ยงสูงยิ่งกว่าคนทั่วไปถึง 60% โดยส่วนมากโรคไขมันพอกตับจะไม่ค่อยออกอาการที่เด่นชัด
ไขมันพอกตับ (Fatty Liver Disease)เป็นภาวะที่มีไขมันเข้าไปสะสมที่เนื้อตับมากยิ่งกว่า 5-10% แล้วก็ชอบเป็นไตรกลีเซอร์ไรด์ (Triglyceride) ปกติไขมันที่ร่างกายได้รับจะถูกเผาผลาญที่ตับและก็เนื้อเยื่อต่างๆแต่ว่าเมื่อร่างกายได้รับเกินสิ่งที่จำเป็น ไขมันส่วนนั้นจะถูกสะสมในแบบเนื้อเยื่อไขมัน แล้วค่อยๆสะสมที่ตับ จนมากเกินกว่าปกติ และก็ทำให้ตับทำงานผิดปกติ โดยธรรมดาจะไม่ค่อยมีลักษณะอาการ พอนานวันขึ้น จะพัฒนาจนนำมาสู่การอักเสบด้านในเนื้อตับอย่างเรื้อรัง นำมาซึ่งการก่อให้เกิดพังผืด เกิดภาวะตับแข็ง ซึ่งเป็นภัยเงียบที่คุณอาจไม่รู้ตัวและบางทีอาจนำมาสู่ภาวะแทรกซ้อนต่างๆจนถึงแก่ชีวิตได้
สาเหตุสำคัญๆของสภาวะไขมันพอกตับ มีดังนี้
1. มีสาเหตุจาก การดื่มแอลกอฮอล์ : จะขึ้นอยู่กับปัจจัยของคนที่ดื่มหลายประการ อย่างเช่น ดื่มมานานขนาดไหน อายุ แล้วก็จำนวนการดื่ม เป็นต้น
2. มีสาเหตุมาจาก โรคอื่น : ส่วนมากแล้วโรคที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงไขมันพอกตับจะเป็นกลุ่มโรคที่เกี่ยวกับน้ำหนัก เช่น โรคความดันเลือดสูง เบาหวาน และโรคอ้วน
3. เกิดจากเหตุด้านอื่น : การทานอาหารที่มีพลังงานสูงประเภทไขมัน แป้ง น้ำตาลมากเกินไป แล้วก็ผลกระทบจากการใช้ยาบางชนิด อย่างเช่น ยากลุ่มสเตียรอยด์ หรือยาต้านทานเชื้อไวรัสบางจำพวก ฯลฯ
ระยะของไขมันพอกตับ แบ่งได้ ดังนี้
ระยะที่ 1 : ไขมันมีการสะสมที่ตับยังไม่ส่งผลอะไรก็ตาม
ระยะที่ 2 : ตับจะมีลักษณะอักเสบและก็จะอักเสบเรื้อรังถ้าปล่อยไว้โดยไม่รักษาเป็นเวลานานกว่า 6 เดือน
ระยะที่ 3 : เกิดพังผืดจากการอักเสบที่ร้ายแรง ตับจะถูกทำลายและก็ทดแทนด้วยพังผืด
ระยะที่ 4 : ตับถูกทำลายเป็นอย่างมาก ทำให้ตับทำงานไม่ปกติเสี่ยงโรคมะเร็งตับและก็โรคตับแข็ง
วิธีการรักษาและก็การดูแลผู้ป่วยไขมันพอกตับ มีดังนี้
1. ลดหุ่น ให้ลดโดยประมาณ เดือนละ 1-2 กก. จะสามารถช่วยลดอาการอักเสบในตับ แล้วก็ลด ความร้ายแรงของพังผืดได้
2. ปรับพฤติกรรมการทานอาหาร หลีกเลี่ยงของกินที่มีไขมันสูง และงดเว้นการดื่มแอลกอฮอล์ต้นเหตุหนึ่งของไขมันพอกตับ
3.รักษาโรคที่เป็นอยู่ ถ้าเกิดมีอาการป่วยเป็นโรคที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับไขมันพอกตับให้รักษาและทานยาตามที่แพทย์สั่ง ไม่ควรรับประทานอาหารเสริมด้วยตนเองหากหมอไม่อนุญาต
4. ออกกำลังกาย อย่างสม่ำเสมอ ควบคุมการรับประทานอาหาร รับประทานอาหาร ที่ มีคุณประโยชน์ มีไขมันต่ำ กากใยสูง และก็ ให้พลังงานต่ำ
เครดิตบทความจาก : https://www.rophekathailand.com/post/l/hepheka/fatty-liver-disease/
Tags : โรคไขมันพอกตับ,ตับแข็ง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น