เคล็ดลับดูแลตับ ที่สามารถทำได้ไม่ยาก
ตับ (Liver) ถือว่าเป็นอวัยวะสำคัญ และใหญ่ที่สุดของร่างกายที่มีเพียงหนึ่งเดียว มีหน้าที่เปลี่ยนสภาพสารต่างๆรวมถึงยาที่เรากินเพื่อรักษาโรคเข้าสู่ร่างกาย ให้อยู่ในรูปแบบสามารถขับออกได้ รวมถึงเป็นแหล่งผลิตน้ำดีเพื่อช่วยย่อยของกิน สร้างสารที่ทำให้เลือดแข็งตัว ดังนั้น เมื่อตับทำงานไม่ปกติก็เลยทำให้เกิดโรคต่างๆตามมาซึ่งอาจเกิดอันตรายถึงชีวิต การถนอมรักษาตับจึงมีความสำคัญต่อร่างกายเป็นอย่างยิ่ง ถ้าหากพวกเราไม่มีการดูแลรักษาหรือคุ้มครองป้องกันที่ดีก็อาจทำให้ตับเกิดการอักเสบขึ้นมาได้
เคล็ดลับดูแลตับของเรา สามารถทำได้หลายวิธีดังต่อไปนี้
- หลีกเลี่ยงการกินอาหารที่มากเกินไป ควรจะทานอาหารเป็นมื้อ ไม่รับประทานจุกจิก หลีกเลี่ยงของกินมื้อใหญ่สั่งพิเศษหรือการกินบุฟเฟ่ต์ โดยพยายามควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ธรรมดาหมายถึงดัชนีมวลกายอยู่ระหว่าง 18.5 - 22.9 กิโลกรัม/เมตร และก็ควรจะบริหารร่างกายอย่างสม่ำเสมออย่างน้อย 150 - 200 นาทีต่อสัปดาห์
- งดหรือลดเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ โดยไม่สมควรดื่มเกิน 2 ดื่มมาตรฐานต่อวันในผู้ชาย หรือ 1 ดื่มมาตรฐานต่อวันในเพศหญิง โดย 1 ดื่มมาตรฐานประมาณเท่ากับเบียร์ 1 แก้วหรือ 1 กระป๋อง (200-300 mL) เหล้าองุ่น 1 แก้วไวน์ (80-100 mL) หรือเหล้าสี 1 เป๊ก (25-30 mL)
- เลี่ยงอาหารที่มีส่วนประกอบของน้ำตาล เนื่องจากร่างกายสามารถเปลี่ยนเป็นไขมันทำให้ไขมันพอกตับเพิ่มขึ้นได้ โดยไม่ควรกินน้ำตาลเกิน 6 ช้อนชาหรือ 24 กรัมต่อวัน อาหารที่มีน้ำตาลสูง ยกตัวอย่างเช่น น้ำอัดลม น้ำหวาน ขนมหวาน นมรสหวาน นมเปรี้ยว ชาเขียว น้ำผึ้ง น้ำผลไม้ ผลไม้เชื่อม ฯลฯ
- หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง อย่างเช่น เนื้อสัตว์ติดมัน หนังสัตว์ เครื่องในสัตว์ น้ำมันปาล์ม น้ำมันมะพร้าว เพราะทำให้ไขมันพอกตับเพิ่มขึ้นได้ ควรจะเลือกใช้น้ำมันที่มีไขมันไม่อิ่มตัวสูง ตัวอย่างเช่น น้ำมันที่ทำจากมะกอก น้ำมันที่ผลิตขึ้นมาจากรำข้าว น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน ฯลฯ แต่ไม่ควรเกิน 6 ช้อนชาต่อวันเพราะว่าให้พลังงานสูง ทำให้อ้วนได้เหมือนกัน
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะถ้าหากเราพักผ่อนน้อยเป็นประจำนอกจากจะตื่นมาร่างกายไม่แจ่มใส ดูเมื่อยล้า ดูเสื่อมโทรมแล้ว ยังส่งผลเสียโดยตรงต่อร่างกายภายในอีกด้วย เนื่องจากว่าการอดนอนจะส่งผลต่อการหลั่งฮอร์โมนที่ผิดปกติไป โดยฮอร์โมนที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อตับ อย่างเช่น ฮอร์โมนคอร์ติซอล (cortisol) จะมีการหลั่งออกมามากกว่าธรรมดา ทำให้ไปกระตุ้นไขมันให้มาเก็บสะสมไว้ที่ตับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเปลี่ยนเป็นสภาวะเสี่ยงต่อโรคไขมันพอกตับได้
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ผลเสียต่อตับ
เครดิตบทความจาก : https://www.rophekathailand.com/post/l/hepheka/live-care
Tags : ผลเสียต่อตับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น